แม้แต่อากาศหายใจของเรายังไม่เท่ากัน
ปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 ในเชียงใหม่วิกฤตจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการดับไฟป่า 5 คนในปีที่แล้ว และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพส่วนตัวของผู้เขียนจนเลือดกำเดาไหลขณะหาข้อมูลเรื่องนี้ การอยู่ในเชียงใหม่ 1 เดือน ในช่วงวิกฤตฝุ่นควัน เปรียบได้กับการสูบบุหรี่ 120 มวน หรือทำให้ชีวิตสั้นลงประมาณ 1 วันต่อเดือน
หลายคนต้องใช้ชีวิตกว่า 3 เดือนภายใต้หมอกควันพิษตลอด 24 ชั่วโมง การป้องกันตัวด้วยเครื่องฟอกอากาศ (ราคาเริ่มต้นกว่า 3,000 บาท) และหน้ากาก N95 ได้กลายเป็น “ของหรูหรา” สำหรับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนจนและแรงงานข้ามชาติที่มีรายได้จำกัดและไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ ทั้งที่ตามสถิติมีคนอย่างน้อยกว่า 100,000 คนในเชียงใหม่ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์
กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ทำงานเสี่ยงอยู่แล้ว มองว่าฝุ่นควัน PM2.5 เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปัญหาหลักด้านรายได้และความมั่นคง แต่ทำได้เพียงใช้หน้ากากอนามัยราคาถูก เพราะหน้ากาก N95 ราคาสูงเกินกำลังซื้อ ส่งผลให้แม้จะเผชิญวิกฤตเดียวกัน แต่ได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน
ผมเชื่อว่า “เราไม่ควรที่จะต้องจ่ายเพื่อหายใจ” อากาศบริสุทธิ์ควรเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน ในระหว่างที่รอการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน จึงต้องการลดความเหลื่อมล้ำนี้ผ่านแคมเปญระดมทุนจากการขาย Preset รูปถ่าย “CNXPM2.5” เพื่อนำเงินไปซื้อหน้ากาก N95 แจกจ่ายให้แรงงานข้ามชาติในเชียงใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้หายใจในอากาศบริสุทธิ์ที่เท่าเทียมกันมากขึ้น
ความร่วมมือ
ร่วมมือกับ ตี่ต่าง
แคมเปญนี้ดำเนินการร่วมกับ ตี่ต่างผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนแรงงานข้ามชาติในเชียงใหม่ โดยตี่ต่างเป็นผู้ช่วยจัดเก็บเงินที่ได้จากการขาย preset และดำเนินการแจกจ่ายหน้ากาก N95 ให้กับแรงงานข้ามชาติโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือไปถึงผู้ที่ต้องการอย่างแท้จริง
การทำงานร่วมกับคนในพื้นที่ช่วยให้เราเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริง และทำให้มั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือไปถึงมือของผู้ที่ต้องการจริง ๆ
ข่าวและการรายงาน
แคมเปญนี้ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2564 และได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง
Prachatai
รายงานข่าวเกี่ยวกับแคมเปญ #PHOTOFORAIR และการช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ
กุมภาพันธ์ 2564
Urban Creature
What's Up #CNXPM2.5 - บทความเจาะลึกเกี่ยวกับแคมเปญและปัญหาฝุ่นควันในเชียงใหม่
แคมเปญ #PHOTOFORAIR ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน และได้รับการตอบรับที่ดีจากสังคม ช่วยให้เราสามารถแจกจ่ายหน้ากาก N95 ให้กับแรงงานข้ามชาติในเชียงใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
3 ลักษณะเด่นของ “ฤดูฝุ่นควัน” ในเชียงใหม่
ความสามารถพิเศษของคนที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่แบบผม คือสามารถที่จะบอกได้ว่าฝุ่นควันที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้น่าจะมีค่า AQI เท่าไหร่ โดยสังเกตจากลักษณะของแสง สี และคอนทราสต์ที่มองเห็น และผมได้นำลักษณะเด่นเหล่านี้มาออกแบบ เป็น preset ชุด “CNXPM2.5” เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับ “ฤดูฝุ่นควัน” ในเชียงใหม่ผ่านภาพถ่ายของตัวเอง โดยมี 3 ลักษณะเด่นที่สำคัญดังนี้
1.แสงนุ่ม ๆ จากฝุ่นควันที่ปกคลุม (Soft-Box from Haze)
ทุกวันนี้ ชีวิตชาวเชียงใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม รู้จักมักคุ้นกับสภาพอากาศระดับ 150 – 500 AQI เป็นอย่างดี เพราะบรรยากาศเช่นนี้ ปกคลุมเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่เช้ายันเช้า กินข้าว ปวดขี้ ก็ต้องพบเจอกับฝุ่นนี้อย่างหลีกหนีไม่ได้ ด้วยสภาพการณ์อย่างนี้เอง มันจึงเปรียบเสมือนการใช้ Softbox ครอบคลุมดวงอาทิตย์อันร้อนแรงในหน้าแล้งเอาไว้ ทำให้ภาพที่คนเชียงใหม่เห็นค่อนข้างนุ่มนวล Low-contrast จนแทบขาดอากาศหายใจ
Creative tip
ลองปรับภาพถ่ายของคุณที่สดใสด้วยการลด saturation และ exposure หลังจากใช้ CNXPM2.5 จะทำให้คุณได้ภาพถ่ายที่หม่นหมองเหมือนอยู่ในเชียงใหม่ในทุก ๆ วัน
2.โทนอุ่น ๆ จากไฟป่ายามพระอาทิตย์ตก (Warm Tone by Wildfire)
อีกจุดเด่นสำคัญของ CNXPM2.5 คือสีเหลืองอบอวนอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับแรงบัลดาลใจมากจากสีของท้องฟ้ายามเย็นและไฟป่าที่ไหม้อยู่บนดอยสุเทพ ทำให้ท้องฟ้าเชียงใหม่ปกคลุมไปด้วยสีเหลืองที่ดูเหมือตอนจบของหนังรักโรแมนติก แต่พระเอกต้องใส่หน้ากากอนามัยระหว่างจูบนางเอก
Creative tip
เพื่อที่จะทำให้ได้โทนสีเหลืองปนส้มคล้ายกับท้องฟ้ายามเย็นช่วงไฟป่าดอยสุเทพ แนะนำให้ปรับ Temp ไปที่ช่วง 5500 และ Tint ไปที่ช่วงสีเขียวเพิ่ม
3.โทนหม่น ๆ จากฝุ่นควัน 500 AQI (Faded Look by Air pollution)
faded look นี้จะเห็นได้เฉพาะช่วงที่ฝุ่นควันมีความหนาแน่นสูงหรือตั้งแต่ 500 AQI ขึ้นไป ลักษณะสำคัญคือ Faded look ที่ลอกแบบมาจนแทบจะถูกฟ้องลิขสิทธิ์จากฝุ่นควันอันลอยล่องไม่พร่องจากท้องฟ้าเชียงใหม่ ควันที่พร้อมร่วมทุกกิจกรรมที่คุณได้ทำ ไม่ว่าจะเดินซื้อเห็ดโคนในตลาดหรือใส่บาตรยามเช้า หรือกินข้าวตอนกลางวันหรือนอนฝันที่โรงเรียน หรือเวียนเทียนวันพระใหญ่ แน่นอนว่ามันจะทำให้ทุกภาพของคนดูเบา เหมือนทาทับด้วยสีเทาบาง ๆ ไว้ จนใครเห็นภาพจำต้องไอ เพราะมันไปสะกิดต่อมอะไรในลำคอ และโพรงจมูก
Creative tip
preset นี้จะเหมาะเจาะอย่างยิ่งกับภาพ Landscape ที่ไม่ได้มีผู้คนเป็นจุดสนใจ เพราะด้านบนของภาพมีการเพิ่ม dehaze